ขณะแปรงฟันหากเกิดเลือดออกตามไรฟัน แสดงว่าคุณกำลังเกิดปัญหาโรคเหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาของสุขภาพเหงือกและฟัน โดยมักเกิดร่วมกับการมีกลิ่นปาก ซึ่งเหงือกที่อักเสบนี้จะมีสีแดง หรือแดงคล้ำ และบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงรู้สึกปวดเวลาสัมผัสโดน และไม่นานเหงือกจะเริ่มแยกตัวออกจากกันจนเหงือกร่น และมีหนองไหลออกมาจากบริเวณร่องเหงือก จนกระทั่งฟันโยกและหลุดออกมาในที่สุด
สาเหตุของการเกิดเลือดออกตามไรฟัน
– เกิดจากคราบหินปูนที่สะสมตามร่องเหงือกมากทำให้เหงือกร่น และเกิดเลือดออกตามมา
– เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สะสมตามร่องเหงือกและไรฟัน
– เกิดจากขาดวิตามินซี
– เกิดจากภาวะเหงือกร่น เหงือกอักเสบ
– เกิดจากการใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง หรือการใช้ไหมขัดฟันผิดวิธี
– ภาวะเลือดออกง่าย เลือดไม่แข็งตัว
– เกิดจากพันธุกรรมที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมาก่อน
– ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวาน
– ผู้ที่สูบบุหรี่จัดเป็นการเร่งให้เกิดหินปูน
– การรับประทานยาแก้ซึมเศร้า, ยากันชัก หรือยารักษาโรคหัวใจ และยาคุมกำเนิด
การป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
– แปรงฟันทุกวันทั้งเช้าและก่อนนอน หรือระหว่างมื้ออาหาร
– ขูดหินปูนเป็นประจำทุกครึ่งปี
– ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม และแปรงฟันเบาๆ ไม่ต้องแรง
– ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี
– พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและช่องปากเป็นประจำ
– รับประทานผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม, ฝรั่ง เป็นต้น
– รับประทานอาหารเสริมอย่างวิตามินซี, แคลเซียม และวิตามินบี
หากใครที่กำลังเผชิญกับภาวะเลือดออกตามไรฟันนี้อยู่ล่ะก็ ควรรีบไปพบทันแพทย์เพื่อทำการรักษานะคะ เพราะหาก
ปล่อยทิ้งไว้เนิ่นนานจะทำให้รักษาได้ยากขึ้น และนอกจากจะเกิดเหงือกบวม เหงือกร่น กลิ่นปากแรงแล้ว ยังอาจสูญเสีย
ฟันไปโดยไม่รู้ตัวอีกด้วยค่ะ
แบบทดสอบความเสี่ยงในการเป็นโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์
ขอบคุณรูปภาพจาก www.flickr.com